ศาสนาบาหลี ทัวร์บาหลี
ก่อนไปเที่ยวบาหลี เรามาทำความรู้จักกับศาสนาบาหลีและจิตวิญญานของชาวบาหลีกันหน่อย เนื่องจากชาวบาหลีมีความใกล้ชิดกับธรรมชาติและก่อนที่จะรับศาสนาฮินดูมาจากอินเดียนั้น บาหลีมีความเชื่อเรื่องอาถรรพ์และจิตวิญญาณของธรรมชาติเช่นดียวกับทุกพื้นที่บนโลกของเรา สำหรับชาวบาหลีบอกภูเขาสูงคือที่พำนักของเทพ ท้องทะเลคือที่สถิตของปีศาจ พลังธรรมชาติจึงแบ่งได้เป็นสองส่วนคู่กันคือ สูงและต่ำ แข็งแรงและอ่อนแอ สุขสบายและป่วยไข้ สะอาดและสกปรก นั้นคือ ความดีและความชั่วนั่นเอง พลังทั้งสองต่างเปรียบดั่งกระจกสะท้อนซึ่งกันและกัน ฉะนั้นชาวบาหลีจึงเคารพและเชื่อในความสมดุล ดั่งที่แสดงออกมาในพิธีกรรมของบาหลี ที่ผดุงไว้ซึ่งความสมดุล ณ จุดกึ่งกลางระหว่างพลังทั้งสองขั้ว (ความดีกับความชั่ว) เนื่องจาก มนุษย์อาศัยอยู่ตรงจุดกึ่งกลางระหว่างทั้งสองขั่วพลัง (ภูเขาสูงคือเทพ, พื้นดินคือมนุษย์, ทะเลคือปีศาจ) ก่อนเดินทางควรศึกษาข้อห้ามต่างๆ และเรื่องน่ารู้ เพื่อที่จะไปทัวร์บาหลี เที่ยวบาหลีอย่างมีความสุข
มาเที่ยวบาหลี เรียนรู้ศาสนาบาหลี
ในการเดินทางมาท่องเที่ยวบาหลี แพคเกจบาหลี ควรเรียนรู้เรื่องศาสนาบาหลีสักนิดหน่อย อะกะมาฮินดูธรรมมา (Agama Hindu Dharma) เป็นศาสนาของชาวบาหลี พวกเขาสักการะบูชา วิญญาณศักดิ์สิทธิ์ (เทพเจ้าและบรรพบุรุษ) และประกอบพิธีเพื่อขับไล่สิ่งชั่วร้าย (ปีศาจ, แม่มด, ผี) สองพิธีเบื้องต้นนี้เป็นพิธีที่ไม่อาจละเลย เนื่องจากชาวบาหลีเชื่อว่า ความสุขและความพอใจในชีวิตจะต้องอยู่ระหว่างสมดุลแห่งพลังทั้งสอง เทพเจ้าสูงสุดของชาวบาหลีคือ ซังห์ยางวิดีวะซา (Sanghyang Widi Wasa) เทพเจ้าองค์อื่นๆคือ ร่างอวตารทั้งสิ้น ดังนั้นจึงกล่าวได้ว่าศาสนาฮินดูแบบบาหลีเป็น ศาสนาในแบบเอกเทพ ทุกการบูชา ทุกการสักการะ จะมีเป้าหมายเพื่อบูชา ซังห์ยางวิดีวะซา ทั้งสิ้นแม้กระทั่งวัดที่สร้างเป็นวัดสำหรับเทพองค์อื่น แต่เทพองค์นั้นๆก็คือร่างอวตารของท่านโดยทั้งสิ้น สำหรับชาวบาหลี การมีหลายอวตารของพระเจ้าสูงสุดเป็นสิ่งสำคัญ เปรียบดั่ง กรมกองต้องมีการแบ่งหน้าที่การงานในการปฎิบัติภารกิจ การอวตารก็เช่นกัน พลังสร้างสรรค์ของพระองค์อวตารมาเป็นพระพรหม พลังรักษาอวตารลงมาเป็นพระวิษณุ พลังทำลายล้างอวคารลงมาเป็นพระศิวะ เป็นต้น เลอยัค (Leyak) เป็นวิญญาณอันชั่วร้ายของคนที่ใช้เวทมนต์และไสยศาสตร์ เลอยัคจะชอบดูดเลือดคนและกินเด็ก หากไม่ได้รับการบวงสรวงเซ่นไหว้จากมนุษย์ บุตา (Buta) และคะลา (Kala) คือวิญญาณที่สิงอยู่ตามชายหาด ป่า ชอบทำให้หมู่บ้านเกิดโรคร้ายหรือเรื่องไม่ดีขึ้น หากหมู่บ้านใดพบเจอกับเหตุการณ์ที่มั่นใจว่าเกิดจาก บุตาและคะลา จะต้องรีบทำพิธีชำระล้างหมู่บ้าน นักบวชในศาสนาฮินดูของบาหลี ถือเป็นส่วนสำคัญของชาวบาหลีเนื่องจากนักบวชจะแนะนำวิถีเกี่ยวกับศาสนกิจที่ถูกต้องเพื่อให้ผลของการกระทำนั้นถูกส่งไปในที่ที่ถูกต้อง
นักบวชชาวบาหลี
นักบวชบาหลีแบ่งได้ 2 ระดับ คือ 1.เปอดันดา หรือนักบวชสูงสุด (Pedanda) อยู่ในฐานะผู้นำจิตวิญญาณ ในงานพิธีจะถือว่า เปอดันดาเป็นตัวแทนของผู้คนในการประกอบพิธี เปอดันดาถือเป็นนักบวชที่อุทิศชิวิตให้กับ การทำสมาธิ เทววิทยา และพิธีต่างๆเพื่อการหลุดพ้น จะอาศัยอยู่ที่บ้านโดยมีภรรยาซึ่งเป็นนักบวชหญิงเป็นผู้ช่วยปฎิบัติ 2.เปอมังคู หรือนักบวชประจำวัด (Pemangku) มีหน้าที่คอยดูแลกิจการงานของวัดและแนะนำในการจัดเตรียมพิธีการอีกทั้งยังเป็นลูกมือให้กับเปอมังคูในการประกอบศาสนพิธีวัดในบาหลีสามารถพบเห็นได้ทั่วทุกแห่งบนเกาะบาหลี และนอกจากนั้นในบ้านของชาวบาหลีทุกบ้านจะต้องมีวัดเป็นของตัวเอง ชาวบาหลีจะเข้าวัดเพื่อเข้าไปประกอบพิธีทางศาสนาในวันสำคัญเท่านั้น ยกตัวอย่างเช่นเทศการที่จัดได้ว่าใหญ่เป็นอันดับต้น ๆ ของบาหลี นั่นคือ เทศการโอดะลัน เริ่มจากการเซ่นไหว้ดวงวิญญาณร้าย เครื่องประกอบพิธีจะถูกวางไว้บนพื้นดิน เครื่องบวงสรวงเทพจะได้รับการประดิดประดอยและวางไว้บนแท่นสูงใกล้กับแท่นวางของบูชา ไม้หอมและธูปจะถูกจุดขึ้น เปอมังคูจะร่ายมนต์เพื่ออันเชิญเทพเจ้า เพื่อให้เข้ามาสู่ร่างประติมาหรือร่างจำลอง (Pratima) วงดนตรีกะเมลันประจำวัดจะบรรเลงจังหวะเพื่อให้สัญญาณเริ่มขบวนทำเทพไปยังทะเล แม่น้ำ หรือวัด เพื่อทำพิธีอาบน้ำศักดิ์สิทธิ์ เมื่อขบวนเคลื่อนถึงจุดหมาย ดนตรีจะเปลี่ยนจังหวะเพื่อการร่ายรำ สำหรับงานกลางคืน ลานชั้นนอกของวัดจะถูกเนรมิตให้เป็นงานวัด มีแผงขายของมากมาย และที่ขาดไม่ได้เลยคือการแสดงละครซึ่งจะแสดงหลังเที่ยงคืนไปจนถึงเช้า ในงานนี้ชาวบาหลีทุกคนจะเลือกชุดที่ดีที่สุดของตัวเองเพื่อใส่มาร่วมงาน และยังมีธรรมเนียมที่ว่า หญิงสาวในวัยแต่งานจะเป็นเจ้าของแผงขายของและหากหนุ่มคนไหนสามารถชนะใจเจ้าของแผงได้ เจ้าของแผงจะเก็บค่าสินค้าในราคาถูกกว่าคนอื่นเพื่อแสดงว่าถูกใจชายหนุ่มเช่นกัน ภายในวัดก็ยังคงดำเนินพิธีทางศาสนาแม้จะเป็นตอนกลางคืน เปอมังคูยังคงประกอบพิธีกรรม ผู้หญิงจะลุกขึ้นมาร่ายรำ บ้างมีการเข้าทรง จนถึงจุดพีคสุดของงานคือ เปอมังคูจะร่ายมนต์เพื่อขอให้เทพเจ้ากลับสวรรค์อย่างพอใจที่ได้รับการต้อนรับอย่างดีบนโลก
บาหลีมีวัฒนธรรม ศาสนา ประวัติศาสตร์ ที่เป็นเอกลักษณ์ ถ้าใครอยากรู้จักบาหลีมากขึ้น เราอยากแนะนำให้ท่านได้ไปเที่ยวบาหลี แบบแพคเกจบาหลี หรือคนเดียวก็เที่ยวได้เพราะการเที่ยวบาหลีนั้นง่ายมากสำหรับคนไทย เพราะไม่ต้องขอวีซ่า และบาหลียังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่ห้ามพลาดอีกหลายสถานที่ให้ท่านได้ไปเยี่ยมชม ถ้ามีโอกาสไปเที่ยวบาหลีกันนะคะ… นอกจากบาหลีแล้ว ท่านสามารถเดินทางไปบุโรพุทโธได้ ซึ่งบินจากบาหลีใช้เวลาเพียงแค่ 1 ชั่วโมง
พรีมา คอนเนคชั่น ให้บริการทัวร์บาหลีมาอย่างยาวนานกว่า 20 ปี ติดตามเราได้ทาง facebook